วันนี้ 15 มีนาคม 2568 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงเหตุสะพานทางยกระดับ ถ.พระราม 2 ทรุดตัว ว่า ช่วงกลางดึกเมื่อคืนเวลา 01.48 น. สถานีตำรวจนครบาลบางมด ได้รับแจ้งเหตุสะพานทางยกระดับที่กำลังก่อสร้างอยู่ทรุดตัว ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บริเวณใต้ทางด่วนจอมทอง-บูรณะ ต่อเนื่องด่านเก็บค่าผ่านทางด่วนพระราม 2 (สะพานเชื่อมทางลงด่วนพระราม 2) ถนนพระรามที่ 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบเรื่อง ได้สั่งการกำชับให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เร่งประสานงาน บูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ดูแลอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณดังกล่าว และการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกมิติ เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบราย ในทางคดีขอให้มั่นใจตำรวจจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้สูญเสีย และเร่งหาความจริงที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ว่ามีใครที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมหลักฐาน

ส่วนการจราจรนั้น ผบ.ตร. ได้กำชับไปยังตำรวจนครบาล บริหารจัดการจราจร ระดมกำลังตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวกเต็มที่ พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ ซึ่งล่าสุดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้ปิดทางขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานครชั่วคราว โดยตำรวจนครบาลได้แนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง ดังนี้

– ถนนพระราม 2 ขาเข้า (มาจาก จ.สมุทรสาคร) ถึงแยกต่างระดับกาญจนาภิเษก แนะใช้เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก เพื่อไปใช้ถนนเอกชัย และถนนเพชรเกษม

– ถนนพระราม 2 ขาเข้า แนะใช้เส้นทางถนนบางขุนเทียน – ชายทะเล จนถึงแยกบางบอน เลี้ยวขวาไปแยกดาวคะนอง

– ถนนพระราม 2 ขาเข้า จนถึงเบี่ยงต่างระดับกาญจนาภิเษก ใช้ทางด่วนกาญจนาภิเษก

-พระประแดง

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ตำรวจทางหลวงเร่งระบายการจราจรรอยต่อกรุงเทพมหานคร หรือเส้นทางเลี่ยงอื่น ๆ ที่คาดว่าประชาชนจะเดินทางเพื่อเลี่ยงบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามเส้นทางการจราจร ทางสายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร หมายเลข 1197

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ผบ.ตร. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกราย ยืนยันว่าจะดำเนินการช่วยเหลือ และเร่งรัดสอบสวนสาเหตุที่เกิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางเยียวยาความเสียหาย วางมาตรการตรวจสอบ และป้องกันให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการก่อเหตุลักษณะแบบนี้ซ้ำอีก